คำถาม
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่า จำเลยประเมินผลการปฏิบัติงานของโจทก์ มีคำสั่ง
ย้ายและตัดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่โจทก์เคยได้รับโดยไม่ชอบ ทำให้โจทก์เสียหายขาดโอกาสความก้าวหน้า
ประโยชน์ที่ควรได้รับ เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ ขอให้เพิกถอนการประเมิน คำสั่ง
คืนสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และให้ใช้ค่าเสียหาย จำเลยฟ้องแย้งว่า โจทก์ร้องเรียน
จำเลยไปยังหลายหน่วยงาน เป็นการจงใจทำให้จำเลยเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง
ขอให้ใช้ค่าเสียหาย ดังนี้ ฟ้องแย้งเกี่ยวกับฟ้องเดิมหรือไม่?
คำตอบ
มีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้
คำพิพากษาฎีกาที่ ๘๑๒๒/๒๕๕๙ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๓
ประเมินผลการปฏิบัติงานของโจทก์ปี ๒๕๕๔ โดยไม่ชอบ จำเลยที่ ๑
มีคำสั่งย้ายโจทก์และตัดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่โจทก์เคยได้รับโดยไม่ชอบ
การกระทำของจำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ทำให้โจทก์เสียหายขาดโอกาสในความก้าวหน้า
ขาดประโยชน์ที่ควรได้รับ และเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี
ขอให้เพิกถอนการประเมินการปฏิบัติงานปี ๒๕๕๔ เพิกถอนคำสั่งย้ายโจทก์ ให้คืนสิทธิและประโยชน์ต่างๆ
ที่โจทก์เคยได้รับ กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้
ค่าเสียหายที่ทำให้โจทก์ขาดโอกาสและสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับและเสื่อมเสียชื่อเสียง
ซึ่ง การพิจารณาคดีของโจทก์ ศาลต้องพิจารณาการกระทำของฝ่ายจำเลยทั้งสามว่าชอบด้วยกฎหมาย
ระเบียบและข้อบังคับของจำเลยที่ ๑ หรือไม่ และการประเมินผลการปฏิบัติงาน
และการย้ายโจทก์เป็นการละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสามที่อ้างว่า
โจทก์ร้องเรียนจำเลยทั้งสามไปยังหลายหน่วยงานเป็นการจงใจทำให้จำเลยทั้งสามเสียหายนั้น
เป็นการอ้างข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ว่าการร้องเรียนของโจทก์เป็นการละเมิด
ต่อจำเลยทั้งสาม แม้ฟ้องเดิมจะมีคดีอันเกิดจากมูลละเมิดรวมอยู่ด้วย
แต่ข้อเท็จจริงตลอดจนพยานหลักฐานที่จะนำสืบเป็นคนละประเด็นแตกต่างกันไม่มีความเกี่ยวพันกัน
ฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสามจึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมไม่อาจรับไว้พิจารณารวมกับฟ้องเดิมได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น