เนติบัณฑิต เก็งเนติ เตรียมสอบ เนติบัณฑิต ภาค1-2 สมัยที่ 74: ฎีกาถอดเทป เนติ
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฎีกาถอดเทป เนติ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฎีกาถอดเทป เนติ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ฎีกาที่ 6969/2555 - ถอดเทป เนติฯ* วิ.อาญา ภาค1-2 (อ.จุลสิงห์ วสันตสิงห์) 20 พ.ย.60 ภาคปกติ สัปดาห์ที่1 สมัยที่ 2/70

ฎีกา ถอดเทป เนติฯ* วิ.อาญา ภาค1-2 (อ.จุลสิงห์ วสันตสิงห์)
 20 พ.ย.60 ภาคปกติ สัปดาห์ที่1 สมัยที่ 2/70

-----------------
 
คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๙๖๙/๒๕๕๕ จำเลยพูดหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งต่อโจทก์ร่วมที่ ๑ จนโจทก์ร่วมที่ ๑ หลงเชื่อส่งมอบเงินให้แก่จำเลย แม้เงินบางส่วนเป็นเงินของโจทก์ร่วมที่ ๒ ที่โอนมาให้ในบัญชีของโจทก์ร่วมที่ ๑ เพื่อให้ส่งมอบแก่จำเลย เนื่องจากเมื่อโจทก์ร่วมที่ ๑ หลงเชื่อ ตามคำหลอกลวงของจำเลยแล้วได้เล่าให้โจทก์ร่วมที่ ๒ ฟัง โจทก์ร่วมที่ ๒ หลงเชื่อว่า เป็นความจริงจึงร่วมลงทุนด้วย แต่การพูดหลอกลวงของจำเลยเป็นการพูดเพื่อให้มีผลต่อโจทก์ร่วมที่ ๑ และได้ทรัพย์สินจากโจทก์ร่วมที่ ๑ เท่านั้น จำเลยมิได้หลอกลวง โจทก์ร่วมที่ ๒ หรือเจตนาให้ได้ทรัพย์สินจากโจทก์ร่วมที่ ๒ จึงไม่อาจถือได้ว่าการที่โจทก์ร่วมที่ ๒ รับฟังเรื่องราวจากโจทก์ร่วมที่ ๑ แล้วหลงเชื่อว่าเป็นความจริงและประสงค์ร่วมลงทุนกับโจทก์ร่วมที่ ๑ ด้วย จึงได้โอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีโจทก์ร่วม ที่ ๑ เพื่อส่งมอบให้แก่จำเลยเกิดจากการกระทำความผิดทางอาญาของจำเลยต่อโจทก์ร่วมที่ ๑ โจทก์ร่วมที่ ๒ จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
คดีนี้จำเลยพูดหลอกลวงโจทก์ร่วมที่ ๑ เท่านั้น จำเลยมิได้หลอกลวงโจทก์ร่วม ที่ ๒ หรือเจตนาให้ได้ทรัพย์สินจากโจทก์ร่วมที่ ๒ การที่โจทก์ร่วมที่ ๒ รับฟังเรื่องราว จากโจทก์ร่วมที่ ๑ แล้วหลงเชื่อว่าเป็นความจริงและประสงค์ร่วมลงทุนกับโจทก์ร่วมที่ ๑ ด้วย โดยโอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีโจทก์ร่วมที่ ๑ เพื่อส่งมอบให้แก่จำเลยนั้นไม่ได้ เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญาของจำเลยต่อโจทก์ร่วมที่ ๒ โจทก์ร่วมที่ ๒ จึงไม่เป็นผู้เสียหายในคดีนี้แต่ในเรื่องทางแพ่งก็ว่ากันไปใครเป็นเจ้าหนี้ใครเป็นลูกหนี้มูลหนี้ มีอยู่ ๕ อย่างก็ว่ากันไป แต่ในทางอาญาต้องรู้สึกสำนึกในการกระทำและเป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา จำเลยไม่ได้หลอกลวงโจทก์ที่ ๒ โจทก์ที่ ๒ ก็ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีอาญาแต่เป็นเจ้าหนี้ในคดีแพ่ง ถ้ามีการร้องทุกข์โดยบุคคลที่ไม่มีสิทธิก็ไม่ใช่การร้องทุกข์ตามกฎหมายอัยการก็ฟ้องไม่ได้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้เพราะว่าการสอบสวนในคดีความผิดต่อส่วนตัวต้องมีการร้องทุกข์ แล้ว อัยการฟ้องคดีไม่ได้ถ้าไม่มีการสอบสวนเพราะอัยการในประเทศไทยเริ่มต้นคดีเองไม่ได้ แต่โดยปกติคดีในประเทศไทยถ้ารัฐดำเนินคดีให้จะเริ่มที่พนักงานสอบสวน แต่ถ้าผู้เสียหาย สามารถฟ้องคดีเองได้ แต่ศาลต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน แต่ถ้าเป็นอัยการฟ้องศาลจะไม่ไต่สวนก็ได้

วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ฎีกาที่ 1949/2542 - ถอดเทป เนติฯ* วิ.อาญา ภาค1-2 (อ.จุลสิงห์ วสันตสิงห์) 20 พ.ย.60 ภาคปกติ สัปดาห์ที่1 สมัยที่ 2/70

ฎีกา ถอดเทป เนติฯ* วิ.อาญา ภาค1-2 (อ.จุลสิงห์ วสันตสิงห์)
 20 พ.ย.60 ภาคปกติ สัปดาห์ที่1 สมัยที่ 2/70

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1949/2542 ในคดีอาญาที่พนักงานอัยการฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหาความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ ส. ถึงแก่ความตายและความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ พ.เจ้าของรถยนต์ไม่ใช่ผู้เสียหายในข้อหาความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ ส. ถึงแก่ความตาย และข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ รัฐเท่านั้นเป็นผู้เสียหาย พ. เจ้าของรถยนต์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาและถือไม่ได้ว่า พนักงานอัยการฟ้องคดีแทน พ.แม้พ. จะเป็นโจทก์ ฟ้องคดีเองก็ไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาตาม ความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 ในอันที่จะนำอายุความในทางอาญาที่ยาวกว่ามาใช้บังคับ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคสองต้องใช้อายุความ 1 ปี เมื่อโจทก์ผู้รับประกันภัยรถยนต์จาก พ.ได้ซ่อมรถยนต์ให้พ. ผู้เอาประกันภัยแล้วจึงชอบที่จะใช้สิทธิทั้งหลายบรรดาที่ พ. มีอยู่ในมูลหนี้ต่อ จำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 226 วรรคหนึ่ง เมื่อสิทธิของ พ.ที่จะฟ้องคดีนี้มีกำหนดอายุความ 1 ปี โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิ ของ พ.จึงย่อมมีอายุความ 1 ปีเช่นกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคสองมีความหมายว่าในกรณีเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิด และการกระทำละเมิดนั้นเป็นความผิดอาญาด้วยดังนั้น ผู้ที่ถูกกระทำละเมิดที่จะได้รับประโยชน์ตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงต้องเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)