|
สรุปย่อคำบรรยายเนติ เน้นประเด็นสำคัญ เก็งฎีกา เก็งมาตรา ขอบเขตสำคัญ ที่น่าออกสอบ |
เจาะประเด็น เน้นฎีกา ที่น่าสนใจ เตรียมสอบ เนติบัณฑิต สมัยที่ 72
กำหนดเวลาการยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่
มาตรา ๑๙๙ จัตวา ได้บัญญัติให้จำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การ ซึ่งศาลมี
คำพิพากษาให้แพ้คดีโดยขาดนัดยื่นคำให้การที่จะยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่
ต้องยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายในกำหนดเวลา ดังนี้
(๑) การยื่นคำขอในกรณีปกติ ให้ยื่นคำขอต่อศาลภายใน ๑๕ วัน
นับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แก่จำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การ
(๒)
การยื่นคำขอในกรณีที่จำเลยไม่สามารถยื่นคำขอในกรณีปกติตามข้อ (๑)
เพราะมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ ในกรณีเช่นนี้ จำเลยนั้นอาจยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ภายในกำหนด
๑๕ วัน นับแต่วันที่พฤติการณ์นั้นได้สิ้นสุดลง
พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้นั้น หมายถึง กรณีที่มีเหตุขัดขวาง
ที่ทำให้จำเลยไม่อยู่ในวิสัยที่จะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนดเวลาตามปกติ
ตามข้อ (๑) นั้นเอง เช่น ขณะที่เจ้าพนักงานศาลส่งคำบังคับให้จำเลยตามมาตรา ๒๗๒
จำเลยไปทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศ หรือมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้น เช่น วาตภัย
อุทกภัย เป็นต้น กรณีต่าง ๆ
เหล่านี้ล้วนจัดได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้
ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำขอในกรณีปกติตามข้อ (๑) ได้
กฎหมายจึงยอมผ่อนคลายให้สิทธิแก่จำเลย อาจมีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายในกำหนด ๑๕
วันนับแต่วันที่พฤติการณ์ นั้นได้สิ้นสุดลง
คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๔๗๔/๒๕๕๙ คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยทั้งสอง
อ้างเหตุแห่งการขาดนัดว่า
ขณะที่มีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้งสองที่ภูมิลำเนาตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าวเป็นเวลานานหลาย เดือนแล้ว
จำเลยทั้งสองเพิ่งทราบว่าถูกฟ้องเป็นคดีนี้เมื่อคดีเสร็จสิ้นไปแล้วโดยไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ
เช่นนี้แม้ข้อกล่าวอ้างของจำเลยทั้งสองจะเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้
แต่จำเลยทั้งสองต้องบรรยายให้ชัดแจ้งว่าพฤติการณ์นั้นได้
เริ่มต้นและสิ้นสุดลงเมื่อใด เพื่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองได้ยื่นคำขอภายในสิบห้าวัน
นับแต่วันที่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ได้สิ้นสุดลงหรือไม่ นอกจากนี้ในส่วนของข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลนั้นจำเลยทั้งสองเพียงแต่กล่าวอ้างว่า
หากจำเลยทั้งสอง ได้นำพยานเข้าสืบหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ทั้งสอง
จำเลยทั้งสองมีโอกาสชนะคดีอย่างแน่นอน
ศาลชั้นต้นรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ทั้งสองแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองแพ้คดีจึงไม่ชอบ
มิใช่ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น
เพราะมิได้โต้แย้งว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นส่วนใดไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบประการใด
เพราะเหตุใด ทั้งเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ โดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงสนับสนุนให้เห็นได้ชัดแจ้ง
ว่า
หากศาลได้พิจารณาคดีนั้นใหม่แล้วตนอาจเป็นฝ่ายชนะ คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบด้วย
ป.วิ.พ. มาตรา ๑๙๙ จัตวา วรรคหนึ่ง และวรรคหนึ่ง
คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๓๘๒/๒๕๓๙ โจทก์ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้แก่จำเลยที่
๑ โดยปิดหมายเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๓๗ ซึ่งจำเลยที่ ๑
มีสิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายในวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๓๗ แม้ทนายจำเลยที่ ๑
จะยื่นคำร้องต่อศาลขอคัดเอกสารเกี่ยวกับคดีและเพิ่งได้รับเอกสารที่ขอคัดนั้นในวันที่
๑ กรกฎาคม ๒๕๓๗ ก็ตามก็ยังมีเวลาอีก ๖ วัน ที่จำเลยที่ ๑ สามารถยื่นคำขอให้พิจารณา
ใหม่ภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้แก่จำเลยที่ ๑ ได้
กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๑
ไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนดเวลาดังกล่าวอันจะทำให้มีสิทธิยื่นคำขอภายใน
๑๕วัน นับแต่วันที่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ได้สิ้นสุดลงเพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๐๘ วรรคหนึ่ง กรณีจะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายใน ๑๕ วัน
นับแต่วันที่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้
ได้สิ้นสุดลงได้นอกจากต้องมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้แล้วยังต้องเป็นกรณีที่ไม่สามารถยื่นคำขอภายใน
๑๕ วัน นับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้แก่จำเลยที่ ๑ ได้ด้วย
กรณีของจำเลยที่ ๑ จึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติดังกล่าวเมื่อเป็นดังนี้จำเลยที่ ๑
ต้องยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๓๗ การที่จำเลยที่ ๑
ยื่นคำขอในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๓๗ จึง ล่วงพ้นกำหนดเวลาตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๗๑๘/๒๕๕๘ พนักงานเดินหมายนำคำบังคับไปส่งให้แก่ลูกหนี้โดยวิธีปิดคำบังคับ
เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๙ ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น
การส่งคำบังคับมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลา ๑๕ วัน ได้ล่วงพ้นไปแล้วตาม ป.วิ.พ. มาตรา
๗๙ วรรคสอง คำบังคับที่ส่งให้แก่ลูกหนี้จึงมีผลในวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๓๙
ลูกหนี้อาจยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ภายในกำหนด ๑๕ วัน
นับแต่วันที่การส่งคำบังคับมีผล
(๓) แต่กรณีจะเป็นอย่างไรก็ตาม ห้ามมิให้จำเลยยื่นคำขอต่อศาล
เมื่อพ้นกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยวิธีอื่น
กำหนดระยะเวลายื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามข้อ (๓)
นี้เป็นกำหนดระยะเวลาอย่างช้าที่สุด กล่าวคือ แม้พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ยังไม่สิ้นสุดลง
หากระยะเวลาได้ล่วงพ้นกำหนดหกเดือน
นับแต่วันยึดทรัพย์หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยวิธีอื่นแล้ว
จำเลยย่อมต้องห้ามมิให้ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ โดยเด็ดขาด
อ้างอิง : คำบรรยายเนติฯ สัมมนา วิ.แพ่ง อ.ประเสริฐฯ
-------------------
แนะนำ :-
- ดาวน์โหลด* ถอดเทปพร้อมเน้นประเด็น สรุปย่อ ฎีกา5 ดาว เก็งท่องพร้อมสอบรายข้อ เตรียมสอบเนติฯ ภาค 2 อัพเดทที่ ...
https://www.lawsiam.com/?name=thaibar2
- ร่วมสนับสนุนเว็บไซต์ ดาวน์โหลด* ถอดเทปเนติ สรุปประเด็น เก็งก่อนสอบ อัพเดทที่....
https://www.lawsiam.com/?file=donate