เนติบัณฑิต เก็งเนติ เตรียมสอบ เนติบัณฑิต ภาค1-2 สมัยที่ 74

วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สรุปฎีกา เนติบัณฑิต* ภาค1 สมัยที่70 วิชา กฎหมายอาญา มาตรา209-287 367-398 อ.เดชา (ภาคค่ำ) ครั้งที่ 2 30 พ.ค. 60

เจาะฎีกา ห้องบรรยยายเนติบัณฑิต*  ภาค1 สมัยที่70 
วิชา กฎหมายอาญา มาตรา209-287 367-398 อ.เดชา (ภาคค่ำ) ครั้งที่ 2 30 พ.ค. 60 
................................


        คำพิพากษาศาลฎีกาที่  ๑๑๗๖/๒๕๔๓ แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานที่รู้เห็นขณะจำเลยกระทำความผิดมาเป็นพยานแต่โจทก์มีสิบเอก อ. ผู้ซึ่งสืบสวนทราบว่า จำเลยเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายบีอาร์เอ็น พันตำรวจตรี ส. ผู้จับกุม จ่าสิบโท พ. ผู้ซักถามจำเลยหลังถูกจับและพันตำรวจโท ช. พนักงานสอบสวนพยานแวดล้อมเข้าเบิกความประกอบเอกสารและภาพถ่ายสอดคล้องเชื่อมโยงกันตั้งแต่ก่อนจับกุมจำเลยที่สิบเอก อ. สืบทราบว่าจำเลยเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้าย บีอาร์เอ็น ที่มีนาย อ. เป็นหัวหน้า ซึ่งในช่วงปี ๒๕๔๐ นาย อ. กับพวกปะทะกับเจ้าหน้าที่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ยึดอาวุธปืน วิทยุสื่อสาร เอกสารเรียกค่าคุ้มครองและภาพถ่ายสมาชิกกลุ่มโจรก่อการร้าย รวมทั้งภาพถ่ายที่มีภาพจำเลยอยู่ด้วย จนกระทั่งหลังจำเลยถูกจับกุมได้ให้การรับสารภาพต่อพันตำรวจตรี ส. พันตำรวจโท ช. กับพันตำรวจตรี ป. ในข้อหาอั้งยี่ ตามบันทึกการจับกุมและบันทึกคำให้การผู้ต้องหาทั้งจำเลยรับต่อพันตำรวจตรี ส. และจ่าสิบโท พ. ว่าก่อนถูกจับกุมจำเลยได้เข้าเป็นสมาชิกกองกำลังติดอาวุธโจรก่อการร้ายขบวนการ บีอาร์เอ็น และมีภาพถ่ายของจำเลยอยู่ในภาพที่พันตำรวจตรี ส. ได้มาก่อนจำเลยถูกจับและได้ลงลายมือไว้ในภาพนั้นด้วย แม้พันตำรวจตรี ส. กับสิบเอก อ. จะเบิกความแตกต่างถึงแหล่งที่มาก็มิใช่ข้อสาระสำคัญ เพราะสาระสำคัญอยู่ที่บุคคลตามภาพถ่ายเป็นจำเลยหรือไม่ ซึ่งในชั้นพิจารณาจำเลยก็รับว่าเป็นบุคคลตามภาพถ่าย เพียงแต่นำสืบปฏิเสธว่า ถูกกลุ่มขบวนการก่อการร้ายขู่บังคับให้เข้าร่วมขบวนการ มิฉะนั้นจะถ่ายรูปส่งให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองและบังคับให้แต่งชุดเดินป่าและถือปืนแล้วถ่ายภาพไว้ซึ่งขัดต่อเหตุผลเพราะหากเป็นการขู่บังคับน่าจะใช้อาวุธข่มขู่จะได้ผลดีกว่า และที่จำเลยนำสืบว่าได้ลงลายมือชื่อในเอกสารหลายฉบับ แต่ไม่ทราบข้อความเนื่องจากอ่านเขียนและพูดภาษาไทยไม่ได้และไม่มีล่ามแปลให้จำเลยฟังนั้น ในชั้นสอบสวนพันตำรวจโท ช. เบิกความว่าการสอบปากคำจำเลยได้ให้นายดาบตำรวจ ว. เป็นล่ามแปลและจำเลยได้ให้การไว้โดยละเอียดเกี่ยวกับวันเวลา สถานที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่จริงสอดคล้องกับบุคคลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าพนักงานคงไม่สามารถบันทึกขึ้นเองได้ พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบนั้นไม่มีน้ำหนักฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้
        จำเลยเข้าเป็นสมาชิกกองกำลังติดอาวุธโจรก่อการร้ายขบวนการ บีอาร์เอ็นกลุ่มนาย อ. มีพฤติการณ์กระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเรียกค่าคุ้มครอง ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเป็นคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีการดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายจึงมีความผิดฐานอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๐๙ วรรคหนึ่ง

        คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๒๗๙/๒๕๕๔ จำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาที่จะ ประกอบกิจการบริษัท อ. ในอาคารที่เกิดเหตุอย่างแท้จริง การนำชื่อของบริษัทที่ เป็นสำนักงานทนายความไปติดตั้งไว้ที่อาคารด้านหน้าโดยต่อมามีการเช่าอาคารส่วนกลาง และด้านหลังเพื่อการเล่นพนันไพ่บาการา จึงมีเหตุผลที่ เชื่อได้ว่าเป็นเพียงการบังหน้าเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจเกรงกลัวและไม่กล้าเข้าไปค้น พฤติการณ์ในการกระทำของจำเลยกับพวกจึงเป็นการรวมกลุ่มกันเพื่อจัดให้มีการเล่นการพนันไพ่บาการาในอาคาร ที่เกิดเหตุ โดยนำชื่อบริษัทซึ่งเป็นสำนักงานทนายความและชมรมมาบังหน้าเพื่อจัดให้มีการเล่นการพนันมาแต่ต้น ย่อมเรียกได้ว่าจำเลยกับพวกเป็นสมาชิกของคณะบุคคล ซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่

        คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๒๒/๒๕๕๖ ความผิดฐานเป็นอั้งยี่ จำเลยกระทำความผิดโดยเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ส่วนความผิดฐานสนับสนุนการก่อการร้าย จำเลยกระทำความผิดด้วย การให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดฐานก่อการร้าย ก่อนหรือขณะกระทำความผิด การกระทำความผิดทั้งสองฐาน แม้จำเลยจะได้กระทำในช่วงเวลาเดียวกัน แต่เป็นการกระทำคนละอย่างแตกต่างกัน และต่างกรรมต่าง วาระกันทั้งเจตนาและความมุ่งหมายในการเป็นอั้งยี่และสนับสนุนการก่อการร้าย เป็นคนละอย่างต่างกัน จึงเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกันมิใช่เป็นการกระทำกรรมเดียว   เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท



        คำพิพากษาฎีกาที่ ๗๘๔/๒๕๕๗ ความผิดฐานเป็นอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๐๙ เป็นความผิดทันทีเมื่อผู้นั้นได้เข้าเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ความผิดฐานเป็นซ่องโจรตามมาตรา ๒๑๐ เป็นขั้นตอนการกระทำความผิดที่ยกระดับถึงขั้นคบคิดกัน หรือตกลงกันหรือประชุมหารือกันเพื่อจะกระทำความผิด สภาพความผิดฐานเป็นอั้งยี่ และฐานเป็นซ่องโจรจึงสามารถแยกการกระทำแต่ละความผิดได้ จึงเป็นความผิดหลายกรรม

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ถอดคำบรรยาย ไฟล์เสียง เนติ 1/70 อาญา มาตรา 288-366 (ภาคค่ำ) อ.ทวีเกียรติฯ 27 พ.ค. 60 สัปดาห์ที่1ครั้งที่1

ถอดคำบรรยาย ไฟล์เสียง เนติ 1/70 อาญา มาตรา 288-366  
อ.ทวีเกียรติฯ วันที่ 27 พฤษภาคม 2560 (ภาคค่ำ)  สัปดาห์ที่1ครั้งที่1
.................................


ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย
        มาตรา ๒๘๘  ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
ความผิดตามมาตรานี้มีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
๑. ผู้ใด
๒. ฆ่า
๓. ผู้อื่น
๔. โดยเจตนา (องค์ประกอบภายใน)
       
        ตัวอย่าง นายเอ เป็นลม แพทย์ตรวจสอบว่าตาย เพื่อนจับใส่โลง  นายเอเปิดโลงออกมาเพื่อนที่จับใส่โลงตกใจถึงแก่ตาย ญาติฟ้องหมอว่าประมาททำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย
        แนวการวินิจฉัย  ๑. เจตนามีหรือไม่ (ไม่มี) ๒. ประมาทหรือไม่ เมื่อพิจารณาถึงการตรวจมีเกณฑ์การตรวจที่เป็นมาตรฐานแล้ว แพทย์ไม่ต้องรับผิด
        ผู้อื่น หมายถึง บุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่ผู้กระทำ และหมายถึงบุคคลธรรมดา เท่านั้น นิติบุคคลไม่อาจถูกฆ่าได้
        ตัวอย่าง นายแดง ไปเรียนวิชาอาคม กับนายดำ โดยนายดำสอนตามตำรา มีการทดสอบโดยยิงไปที่ศีรษะนายแดง ทำให้นายแดงถึงแก่ความตาย นายดำถูกฟ้องฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นายนายต่อสู้ว่าไม่ได้เจตนาให้นายแดงตาย
        แนวการวินิจฉัย ปืนเป็นอาวุธร้ายแรง ยิงไปที่อวัยวะสำคัญ เป็นเจตนาฆ่า 

        อาจารย์ให้ข้อสังเกต ในข้อสอบหากมีประเด็นว่า นาย ก. ยิงนาย ข. เช่นนี้ ถือว่ามีเจตนาฆ่าแล้ว ไม่ต้องไปสับสนในข้อเท็จจริง  หากประเด็นข้อสอบไม่ต้องการถามเรื่องเจตนาฆ่า จะมีข้อเท็จจริงอื่นๆ เช่นยิงลงต่ำ ยิงที่ขา ยิงที่แขน ยิงขึ้นฟ้า ข้อเท็จจริงเช่นนี้ คือ ไม่มีเจตนาฆ่า เป็นต้น...../อ่านต่อ แบ่งปัน.... คลิกที่นี่ >>>  ถอดไฟล์เสียง เนติ 1/70 อาญา มาตรา 288-366 (ภาคค่ำ) อ.ทวีเกียรติฯ 27 พ.ค. 60 สัปดาห์ที่1ครั้งที่1

ถอดเทป ไฟล์เสียงเนติ 1/70 กฎหมายหุ้นส่วน-บริษัท (ภาคค่ำ) อ.สหธนฯ วันที่ 26 พ.ค 60 ครั้งที่1

ถอดเทป ไฟล์เสียงเนติ 1/70 กฎหมายหุ้นส่วน-บริษัท (ภาคค่ำ) 
อ.สหธนฯ วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 ครั้งที่1
..................


           ในวันนี้อาจารย์จะบรรยายในส่วนวิชาหุ้นส่วน บริษัท เวลา ๒ ชั่วโมง โดยจะบรรยาย ๑๕ ครั้ง ในช่วงแรกอาจารย์จะบรรยายในเรื่องทั่วไปและเรื่องห้างหุ้นส่วน จำนวน ๘ ครั้ง

หุ้นส่วนและบริษัท
        มาตรา ๑๐๑๒  อันว่าสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้น
        สรุป เมื่อใดที่นำทุนมาร่วมกัน เมื่อนั้นเป็นเรื่องของการตั้งองค์กรธุรกิจ
        สมมุติ อาจารย์สหธน จะเปิดร้านไก่ย่าง ได้จ้างสมโชคมาเป็นลูกจ้าง กรณีนี้มีเจ้าของทุนคนเดียว ไม่ใช่องค์กรธุรกิจ

ประเภทองค์กรธุรกิจ มี ๒ แบบด้วยกัน คือ
        ๑. มีชื่อเรียกเฉพาะทางกฎหมาย  เช่น ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด เป็นต้น

        ๒. ไม่มีชื่อเรียกเฉพาะทางกฎหมาย เช่น กงสี กิจการร่วมค้า เป็นต้น /.... อ่านต่อ  คลิกที่นี่ >>> ถอดเทป ไฟล์เสียงเนติ 1/70 กฎหมายหุ้นส่วน-บริษัท (ภาคค่ำ) อ.สหธนฯ วันที่ 26 พ.ค 60 ครั้งที่1