สรุปย่อคำบรรยายเนติ เน้นประเด็นสำคัญ เก็งฎีกา เก็งมาตรา ขอบเขตสำคัญ ที่น่าออกสอบ |
ข้อ4 วิธีพิจารณาคดีวิสามัญในศาลชั้นต้น
เจาะประเด็น เน้นฎีกา ที่น่าสนใจ เตรียมสอบ เนติบัณฑิต สมัยที่ 72
ขาดนัดพิจารณา (น่าสนใจ)
มาตรา ๒๐๐ บัญญัติว่า “ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙๘ ทวิ และมาตรา ๑๙๘ ตรี
ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มาศาลในวันสืบพยานและไม่ได้รับอนุญาต
จากศาลให้เลื่อนคดี ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณา
ถ้าคู่ความฝ่ายใดไม่มาศาลในวันนัดอื่นที่มิใช่วันสืบพยาน
ให้ถือว่าคู่ความ ฝ่ายนั้นสละสิทธิการดำเนินกระบวนพิจารณาของตนในนัดนั้น และทราบกระบวนพิจารณาที่ศาลได้ดำเนินไปในนัดนั้นด้วยแล้ว”
สรุป จากบทบัญญัติมาตรา ๒๐๐ วรรคหนึ่ง มีข้อที่จะพิจารณาในเบื้องต้น
ดังนี้
คำว่า ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙๘ ทวิ และมาตรา ๑๙๘ ตรี หมายความ ว่า
บทบัญญัติในเรื่องการขาดนัดพิจารณาไม่นำไปใช้แก่คดีที่จำเลยขาดนัดยื่น
คำให้การหรือคดีที่มีจำเลยหลายคนและจำเลยบางคนขาดนัดยื่นคำให้การ หากใน
คดีดังกล่าวมีการสืบพยาน ถ้าจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การไม่มาศาลในวันสืบพยานก็ต้องบังคับตามมาตรา
๑๙๘ ทวิ วรรคสี่ หรือ มาตรา ๑๙๘ ตรี วรรคสอง กล่าวคือ ไม่ถือว่าจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การนั้นขาดนัดพิจารณาอีก
จะนำบทบัญญัติเรื่องคู่ความทั้งสองฝ่ายขาดนัดพิจารณาตามมาตรา
๒๐๑ หรือโจทก์ขาดนัดพิจารณาตามมาตรา ๒๐๒ มา ปรับแก่คดีไม่ได้
ต้องใช้บทกฎหมายเรื่องการขาดนัดยื่นคำให้การมาใช้แก่คดีเพียงอย่างเดียว
คำว่า คู่ความ มีความหมายตามมาตรา ๑ (๑๑) ที่บัญญัติว่า
คู่ความ หมายความว่า
บุคคลผู้ยื่นคำฟ้องหรือถูกฟ้องต่อศาลและเพื่อประโยชน์แห่งการดำเนินกระบวนพิจารณา
ให้รวมถึงบุคคลผู้มีสิทธิกระทำการแทนบุคคลนั้น ๆ ตามกฎหมายหรือในฐานะทนายความ
คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๓๕๘/๒๕๖๐ จำเลยที่ ๑ มอบฉันทะให้ ส.
มายื่นคำร้องขอคัดถ่ายสำเนาแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรของผู้ซื้อทรัพย์เพื่อแถลงต่อศาลและวางเงินค่าส่งหมายนัดสำเนาคำร้อง
ส.
จึงมีอำนาจเพียงยื่นคำร้องและวางเงินค่าส่งหมายนัดสำเนาคำร้องตามที่ระบุไว้ในใบมอบฉันทะเท่านั้น
การที่ ส. ท่าคำร้องขอคัดถ่ายสำเนา
แบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรของผู้ซื้อทรัพย์โดยลงชื่อเป็นผู้เรียงและเขียนเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งซึ่งต้องกระทำโดยคู่ความหรือทนายความ
การมอบฉันทะ
ดังกล่าวไม่ทำให้ ส. อยู่ในฐานะคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑ (๑๑)
คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๔๐/๒๕๔๙ เสมียนทนายจำเลยที่ ๒ ได้รับมอบฉันทะ จากทนายจำเลยที่ ๒
มายื่นคำร้องขอถอนทนายและฟังคำสั่งของศาลชั้นต้น เสมียนทนายจำเลยที่ ๒ จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๑ (๑๑) เพราะเสมียนทนายจำเลยที่ ๒ ไม่มีสิทธิที่จะว่าความหรือดำเนินกระบวนพิจารณาใด
ๆ
นอกจากมายื่นคำร้องดังกล่าวและรับทราบคำสั่งของศาลตามที่รับมอบหมายจากทนายจำเลยที่
๒ เท่านั้น จึงถือว่าจำเลยที่ ๒ และทนายจำเลยที่ ๒ ไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์
สรุป คำพิพากษาฎีกาฉบับนี้
เสมียนทนายได้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยให้ มายื่นเฉพาะคำร้องขอถอนทนายและฟังคำสั่งศาลเกี่ยวกับเรื่องการขอถอนทนาย
เท่านั้น ไม่ได้รับมอบฉันทะให้มีอำนาจเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีหรือกำหนดวันนัดสืบพยาน
เสมียนทนายจึงไม่ถือว่าเป็นคู่ความในกิจการที่ได้รับมอบหมาย
เท่ากับไม่มีคู่ความฝ่ายจำเลยที่ ๒ มาศาลในวันสืบพยานโจทก์เลย
แต่ถ้าเสมียนทนายที่มาศาลได้รับมอบฉันทะให้มีอำนาจยื่นคำร้องขอ
เลื่อนคดี กำหนดวันนัดพิจารณา ฟังคำสั่งและลงลายมือชื่อแทนทนายจำเลย*** ถือว่าเป็นการมอบฉันทะที่เกี่ยวข้องกับการสืบพยาน
เสมียนทนายจึงมีฐานะเป็น คู่ความในกิจการที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๖๔
จึงเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายจำเลยมาศาลแล้ว ไม่ถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๗๙๐/๒๕๔๙ ในวันสืบพยาน
ทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้ ป. เสมียนทนายมาศาลและมีอำนาจในการยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี
กำหนดวันนัดพิจารณาฟังคำสั่งและลงลายมือชื่อทนายจำเลยเช่นนี้ ป. จึงมีฐานะเป็นคู่ความแล้ว มิใช่ไม่มีคู่ความฝ่ายจำเลยมาศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๐๐ ที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาจึงไม่ชอบ
คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๐๔๙/๒๕๕๘ ในวันสืบพยานโจทก์วันที่ ๑๕ พฤษภาคม
๒๕๕๗ ทนายจำเลยทั้งสามมอบฉันทะให้ ส. เสมียนทนายนำคำร้องมายื่นขอเลื่อนคดี
ฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดแทน ส. ย่อมอยู่ในฐานะเป็นคู่ความมิใช่คู่ความฝ่าย
จำเลยทั้งสามไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลอันจะให้ถือว่าจำเลยทั้งสามขาดนัดพิจารณาในคดีมโนสาเร่ตาม
ป.วิ.พ. มาตรา ๑๙๓ ทวิ วรรคสอง การไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสามเลื่อนคดีคงมีผลเพียงทำให้จำเลย
ทั้งสามเสียสิทธิในการซักค้านพยานโจทก์ในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เท่านั้น
จำเลยทั้งสามยังคงมีสิทธินำพยานเข้าสืบในนัดวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗
ตามที่นัดไว้แล้ว การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งถือว่าจำเลยทั้งสามขาดนัดพิจารณาและให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว
จึงเป็นการไม่ชอบ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๒๕๙/๒๕๕๘, ๓๗๙๐/๒๕๔๙ วินิจฉัยเช่นกัน)
อ้างอิง : คำบรรยายเนติฯ สัมมนา วิ.แพ่ง อ.ประเสริฐฯ
-------------------
แนะนำ :-
- ดาวน์โหลด* ถอดเทปพร้อมเน้นประเด็น สรุปย่อ ฎีกา5 ดาว เก็งท่องพร้อมสอบรายข้อ เตรียมสอบเนติฯ ภาค 2 อัพเดทที่ ... https://www.lawsiam.com/?name=thaibar2
- ร่วมสนับสนุนเว็บไซต์ ดาวน์โหลด* ถอดเทปเนติ สรุปประเด็น เก็งก่อนสอบ อัพเดทที่.... https://www.lawsiam.com/?file=donate